สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 5 มิถุนายน 2568

🗽 US

Dow Jones -91.90 จุด (-0.22%)

S&P 500 +0.44 จุด (+0.01%)

NASDAQ +61.53 จุด (+0.32%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (4 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวลงสู่ระดับ 49.9 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 51.6 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีเดือนพ.ค.อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคบริการ และเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง(ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 37,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 110,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

EU EURO

EURO STOXX 600 +29.75 จุด (+0.55%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (4 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเยอรมนีอนุมัติมาตรการลดภาษีนิติบุคคลมูลค่า 4.6 หมื่นล้านยูโร (5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

JP JAPAN

NIKKEI 225 +300.64 จุด (+0.80%)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (4 มิ.ย.) พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นได้สำเร็จหลังร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากที่หุ้นกลุ่มเดียวกันปรับตัวขึ้นที่ตลาดสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ขานรับความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังคงแข็งแกร่ง

CN CHINA

Shanghai Composite +14.23 จุด (+0.42%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ (4 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดีดตัวขึ้นในวันอังคาร (3 มิ.ย.) อันเนื่องมาจากหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ที่พุ่งขึ้นเกือบ 3% ส่งผลให้อินวิเดียสามารถแซงหน้าไมโครซอฟท์ (Microsoft) ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) สูงที่สุดในโลกได้อีกครั้ง

HK Hong Kong

Hang Seng +141.54 จุด (+0.60%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (4 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้า

CI INDIA

S&P BSE Sensex +260.74 จุด (+0.32%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุด โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ตลาดจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและอินเดีย รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินเดียในวันศุกร์

VN VIETNAM

VN -2.59 จุด (-0.18%)

TH THAILAND

SET -17.16 จุด (-1.49%)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ 1,132.02 จุด ลดลง 17.16 จุด (-1.49%) มูลค่าซื้อขาย 49,605.35 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นเอเชียที่ต่างปรับขึ้น โดยปัจจัยกดดันหลักมาจากแรงเทขายหุ้น DELTA กังวลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเตรียมปรับเกณฑ์ Capped Weight จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวใน SET50/100 กลางปีนี้ สร้างแรงกดดันต่อดัชนีราว 10 จุด

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน และยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองจากความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน

⛽️ น้ำมัน WTI

62.85 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.38 เซนต์ (-0.60%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (4 มิ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอุปทานเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งความกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์พลังงาน

🪙 Gold

3,396.50 ดอลลาร์/ออนซ์ +19.40 ดอลลาร์ (+0.57%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (4 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การค้า

Source: CNBC , IQ